Wikipedia

Search results

Uthid

Massage To Print

ARGICULTURE

          น้ำยาเร่งรากพืชแบบธรรมชาติสามารถทำได้ง่าย ๆ จากวัตถุดิบใครัวเรือน โดยใช้ส่วนผสมที่                    ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อ

วิธีทำ:

1. ผสมน้ำมะพร้าวหรือกะทิกับน้ำผึ้งในถ้วยสะอาด

2. เติมน้ำสะอาดแล้วคนให้เข้ากันดี

3. นำต้นพืชที่ต้องการเร่งรากจุ่มในน้ำยานี้ประมาณ 1-2 ชั่วโมงก่อนการปลูก หรือใช้เป็นน้ำรดต้นพืชที่เพิ่งปลูกใหม่

สูตรน้ำยาเร่งรากจากว่านหางจระเข้

ส่วนผสม:

1. เจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะ

2. น้ำสะอาด 200 มิลลิลิตร

วิธีทำ:

1. บดเจลว่านหางจระเข้ให้ละเอียด

2. ผสมเจลว่านหางจระเข้กับน้ำสะอาดแล้วคนให้เข้ากัน

3. นำต้นพืชที่ต้องการจุ่มในน้ำยานี้ประมาณ 30 นาที หรือนำไปฉีดพ่นลงบนดินรอบ ๆ ต้นพืชที่ต้องการเร่งราก

เคล็ดลับ

ควรใช้ทันทีหลังจากผสมเพื่อประสิทธิภาพที่ดีสุด

น้ำยาเร่งรากแบบธรรมชาตินี้ปลอดภัยต่อพืชและสิ่งแวดล้อม

4o

คุณพูดว่า:

วิธีทำให้ มัลเบอร์รี่ออกดอกออกผล ดก ทำอย่างไร

ChatGPT พูดว่า:

การทำให้ มัลเบอร์รี่ (Mulberry) ออกดอกออกผลดก ต้องอาศัยทั้งเทคนิคการดูแล การบำรุง และการกระตุ้นให้ต้นพร้อมออกผล 

โดยเฉพาะในสภาพอากาศเขตร้อนแบบไทย มัลเบอร์รี่สามารถให้ผลได้ดีถ้าดูแลถูกวิธี
วิธีทำให้มัลเบอร์รี่ออกดอกออกผลดก:

1. ตัดแต่งกิ่ง (Pruning) อย่างถูกวิธี

หลังเก็บผลหรือช่วงพักต้น (ปลายฝน - ต้นหนาว) ให้ ตัดแต่งกิ่งให้สั้นเหลือประมาณ 3–5 ตา ต่อกิ่ง เพื่อกระตุ้นให้แตกยอดใหม่

ดอกและผลจะออกตรงกิ่งอ่อนใหม่เสมอ

2. งดให้น้ำชั่วคราวเพื่อกระตุ้นการออกดอก

งดการให้น้ำประมาณ 7-10 วันให้ต้นเครียดเล็กน้อย จากนั้นจึงกลับมาให้น้ำตามปกติ จะกระตุ้นให้มัลเบอร์รี่ออกดอก

3. ใส่ปุ๋ยสูตรเร่งดอกผล

หลังจากตัดแต่งกิ่งและเริ่มให้น้ำใหม่ ใช้ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง เช่น

สูตร 8-24-24 หรือ 12-24-12

ใส่รอบโคนต้น หรือใช้ปุ๋ยน้ำก็ได้

4. เสริมด้วยปุ๋ยคอกหมักหรือฮิวมัส

ใช้ปุ๋ยคอกที่สลายตัวดี เช่น ขี้วัว ขี้ไก่หมัก ช่วยปรับสภาพดินให้ร่วนซุย เพิ่มธาตุอาหารให้มัลเบอร์รี่โตดีและออกผลต่อเนื่อง

5. ใช้ฮอร์โมนพืชธรรมชาติเร่งดอก

เช่น น้ำมะพร้าว, น้ำส้มควันไม้, สาหร่ายทะเล, น้ำหมักชีวภาพ ฯลฯ ฉีดพ่นทางใบช่วงเช้าเพื่อเร่งการแตกยอดและออกดอก

6. แสงแดดและอากาศ

มัลเบอร์รี่ต้องการแดดจัดวันละ 6–8 ชั่วโมง ถ้าได้รับแสงไม่พอ ผลจะน้อยและไม่หวาน

7. พันธุ์มีผลต่อการให้ผลดก

พันธุ์ที่นิยม เช่น พันธุ์เชียงใหม่ 60, พันธุ์ดำเมืองเลย, พันธุ์ไต้หวันผลใหญ่ เป็นต้น เป็นพันธุ์ที่ให้ผลดกและโตเร็ว

ถ้าอยากให้ช่วยวางแผนการตัดแต่งกิ่ง + ใส่ปุ๋ยตามช่วงเดือนแบบปฏิทินก็ได้นะ บอกมาเลยว่าจะปลูกแถบไหน เดี๋ยวจัดให้เลย.

4o

คุณพูดว่า:

ต้นพริกใบงิดงอ ออกเป็นสีเหลือง ต้องทำอย่างไร

ChatGPT พูดว่า:

อาการ ใบพริกงอและเหลือง เป็นสัญญาณว่าต้นพริกกำลังเจอปัญหาบางอย่าง ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ 
ลองเช็กตามนี้ทีละข้อ พร้อมวิธีแก้ไขนะครับ:

1. มีเพลี้ยหรือไรขาวดูดน้ำเลี้ยง

อาการ: ใบพริกจะหงิก งอ ม้วน และเริ่มเหลือง โดยเฉพาะใบยอด
วิธีแก้:

ตรวจดูใต้ใบ ถ้าเห็นจุดขาวเล็ก ๆ หรือจุดดำคล้ายผงฝุ่น คือไรหรือเพลี้ย

ใช้ น้ำส้มควันไม้ หรือ สบู่ดำผสมน้ำ ฉีดพ่นใต้ใบทุก 3 วัน ติดต่อกัน 3-5 ครั้ง

ถ้าระบาดหนัก อาจใช้สารกำจัดแมลงประเภทไวท์ออยล์ หรือน้ำหมักพืชที่มีฤทธิ์ไล่แมลง เช่น ตะไคร้หอม, ยาสูบ

2. ขาดธาตุอาหาร (โดยเฉพาะไนโตรเจนและแมกนีเซียม)

อาการ: ใบเหลืองซีด โดยใบล่างจะเหลืองก่อน ใบจะอ่อนแรง
วิธีแก้:

ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 หรือฉีดพ่นปุ๋ยทางใบที่มีธาตุอาหารรอง (Mg, Fe, Zn)

เติมปุ๋ยคอกหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์เพื่อปรับปรุงดิน

3. ดินแฉะ รากเน่า

อาการ: ใบเหลืองทั้งต้น เหี่ยวง่าย โดยเฉพาะตอนกลางวัน รากเริ่มเน่า
วิธีแก้:

หยุดให้น้ำชั่วคราว และพิจารณาย้ายต้นไปปลูกในดินที่ระบายน้ำได้ดี

ผสมแกลบดำหรือทรายหยาบเพื่อปรับสภาพดินให้โปร่ง

4. เชื้อราในดินหรือราก

อาการ: ใบเหลือง ร่วง รากดำหรือมีเชื้อราเกาะ
วิธีแก้:

ราดโคนต้นด้วยสารชีวภาพ เช่น ไตรโคเดอร์มา หรือใช้น้ำหมักขี้เถ้า, น้ำขมิ้นผสมน้ำหมักมะกรูด

หมั่นปรับความชื้น ไม่ให้น้ำมากเกินไป

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

พริกชอบแดดจัด อย่าปลูกในที่ร่ม

รดน้ำตอนเช้า ไม่แฉะ และอย่ารดตอนเย็น

ใส่ปุ๋ยอินทรีย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้พริกแข็งแรง ต้านโรคแมลงได้ดี

ถ้าถ่ายรูปมาให้ดูได้ด้วย จะช่วยวิเคราะห์แม่นยำขึ้นอีกครับ.

คุณพูดว่า:

วิธีกระตุ้นมะเขือยาวให้ออกลูกเยอะๆ ทำอย่างไร เนื่องจากออกลูกมา ครั้งละลูก แล้วก็ไม่มี

ChatGPT พูดว่า:

ถ้ามะเขือยาว ออกลูกน้อย หรือ ออกลูกแค่ครั้งละลูกแล้วเงียบหาย แบบที่ว่ามา สาเหตุหลัก ๆ มักมาจากต้นยังไม่สมบูรณ์พอ 
หรือมีปัจจัยรบกวนการออกดอกติดผล ลองดู วิธีกระตุ้นให้มะเขือยาวออกลูกดก ตามนี้เลยครับ:

1. ตัดแต่งใบและยอดอย่างสม่ำเสมอ

มะเขือยาวออกผลตรง “ข้อกิ่ง” บนกิ่งข้าง

ถ้าต้นมีแต่ยอดไม่แตกกิ่งข้าง = ลูกน้อย

ให้เด็ดปลายยอด ตอนต้นสูงประมาณ 30–50 ซม. เพื่อกระตุ้นให้แตกกิ่งข้างมากขึ้น

ตัดใบล่างที่เริ่มเหลืองหรือบังแสงออก เพื่อให้อากาศถ่ายเทดี ลดโรค และแสงเข้าถึงลำต้น

2. งดน้ำกระตุ้นก่อน แล้วกลับมาให้น้ำพร้อมปุ๋ย

งดน้ำ 2–3 วัน (อย่าให้เหี่ยวเกิน) แล้วกลับมาให้น้ำพร้อมปุ๋ยเร่งดอก เช่น 8-24-24 หรือ 12-24-12

วิธีนี้ช่วยให้ต้นเกิด “ความเครียดเบา ๆ” แล้วรีบแตกดอก-ออกผล

3. ใช้ปุ๋ยเร่งดอก – เพิ่มผล

ใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเร่งดอก เช่น 8-24-24 หรือปุ๋ยอินทรีย์หมักเสริม P,K

พ่นปุ๋ยทางใบที่มี โบรอน + แคลเซียม + สาหร่ายทะเล ช่วยให้ดอกติดผลดี ลดการร่วง

4. กระตุ้นด้วยฮอร์โมนพืชธรรมชาติ

ใช้น้ำมะพร้าว + น้ำส้มควันไม้ + น้ำหมักชีวภาพพ่นทางใบทุก 7 วัน

หรือใช้ น้ำหมักกล้วยสุก ผสมน้ำ 1:10 ราดโคนต้น ช่วยบำรุงดอก-ผล

5. ปลูกให้โดนแดดเต็มวัน

มะเขือต้องการแดด 6–8 ชม./วันขึ้นไป ถ้าปลูกในร่มหรือครึ่งแดด จะติดดอกน้อย

6. ผสมเกสรเอง (ถ้าดอกไม่ติดลูก)

บางช่วงอากาศชื้นหรือไม่มีแมลง อาจต้องใช้ แปรงเล็ก ๆ แตะเกสรตัวผู้ไปแตะดอกตัวเมีย ตอนเช้า ๆ ช่วยเพิ่มโอกาสติดลูก

7. ป้องกันเพลี้ยและไร

เพลี้ยอ่อน, ไรขาว มักดูดน้ำเลี้ยงที่ดอก ทำให้ติดลูกน้อย

ใช้น้ำหมักสะเดา, ตะไคร้หอม หรือน้ำส้มควันไม้ฉีดพ่นเป็นประจำ

อยากให้มะเขือยาวออกดกต่อเนื่อง ต้องเน้นการ “ควบคุมทรงพุ่ม + บำรุงดิน + เร่งดอกให้ถูกช่วง”
ถ้าบอกช่วงเดือนที่ปลูกกับรูปทรงต้นตอนนี้ได้ เดี๋ยวช่วยวางแผนดูแลเป็นรายสัปดาห์ให้เลยก็ได้นะครับ.

คุณพูดว่า:

เราจะรู้ได้ยังไงว่าเกสรตัวผู้ตัวเมีย

ChatGPT พูดว่า:

คำถามดีมากครับ! การแยกแยะ เกสรตัวผู้ และ เกสรตัวเมีย ของมะเขือยาว (และพืชตระกูลมะเขืออื่น ๆ เช่น มะเขือเปราะ มะเขือเทศ) 
มีเทคนิคง่าย ๆ สังเกตได้ด้วยตาเปล่าเลยครับ:




1. ลักษณะของ “ดอกตัวผู้”

มีก้านดอกยาว เรียว

ไม่มีรังไข่หลังดอก (ไม่มีตุ่มบวมที่โคนดอก)

มีเฉพาะเกสรตัวผู้ตรงกลาง (เป็นแท่งสีเหลืองๆ คล้ายแท่งกล้วยหอมเล็กๆ)

เมื่อโรยแล้วจะร่วงง่าย ไม่ติดลูก

2. ลักษณะของ “ดอกตัวเมีย”

มีก้านดอกสั้นกว่า

มี “ตุ่มป่องๆ” หรือ “รังไข่” อยู่ตรงโคนดอก (ดูคล้ายผลเล็กๆ)

มีเกสรตัวเมียตรงกลาง (เป็นแท่งเล็ก ๆ ตรงใจกลางล้อมด้วยเกสรตัวผู้)

ถ้าได้รับการผสมแล้ว จะพัฒนากลายเป็นผลมะเขือยาว

สรุปการดูง่าย ๆ:

ดอกตัวผู้ = ไม่มีตุ่มบวมที่โคนดอก, มีแต่เกสรเหลือง

ดอกตัวเมีย = มีตุ่มบวมเหมือนผลเล็ก ๆ ที่โคนดอก

ถ้าจะช่วยผสมเกสร:

1. เลือกดอกตัวผู้ที่สดใหม่ในตอนเช้า (6–9 โมง)

2. ใช้แปรงหรือสำลีก้าน แตะเกสรเหลืองๆ จากดอกตัวผู้

3. แตะไปยังดอกตัวเมีย (ตรงกลางดอก)

4. ทำทุกวันตอนมีดอก จะช่วยเพิ่มอัตราติดลูกได้มากขึ้น

ถ้ามีภาพดอกให้ผมดู จะบอกได้เลยว่าเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย อยากส่งมาก็ได้นะครับ!

คุณพูดว่า:

คุณมีภาพส่งมาให้ดูไหม ขอ ดูภาพเปรียบเทียบหน่อยครับ

ChatGPT พูดว่า:

สร้างภาพเสร็จแล้ว



ให้คะแนนภาพนี้

คุณพูดว่า:

พริกออกดอก แล้วจะร่วงเร็วสาเหตุจากอะไร ถึงไม่ออกเป็น ผลผลิต เวลาเขย่าต้นดอกจะร่วงและใบก็จะร่วงด้วย

ChatGPT พูดว่า:

อาการที่ พริกออกดอกแล้วร่วง ไม่ติดผล หรือ ดอกและใบร่วงเมื่อเขย่าต้น มักมีหลายสาเหตุที่เกี่ยวข้องกัน ลองดูตามนี้ครับ:



สาเหตุหลักที่ทำให้ดอกร่วง ไม่ติดผล

1. ขาดธาตุอาหารสำคัญ (โดยเฉพาะ โบรอน, แคลเซียม, โพแทสเซียม)

ดอกจะพัฒนาไม่สมบูรณ์ เกสรอ่อนแอ ติดผลยาก

ใบร่วงเพราะโครงสร้างพืชไม่แข็งแรง

วิธีแก้:

ใส่ปุ๋ยเสริม เช่น สูตร 8-24-24 หรือ 12-24-12 รอบโคน

พ่นปุ๋ยทางใบที่มี แคลเซียม + โบรอน (Ca+B) สัปดาห์ละครั้ง



2. ขาดน้ำหรือรดน้ำไม่สม่ำเสมอ

พืชเครียด ดอกจะร่วงก่อนติดผล

โดยเฉพาะถ้าร้อนจัดแล้วรดน้ำไม่ทัน

วิธีแก้:

รดน้ำให้เพียงพอช่วงออกดอก ไม่ปล่อยให้ดินแห้งหรือแฉะเกิน



3. อุณหภูมิร้อนจัด หรือเย็นจัดเกินไป

ถ้าอากาศ ร้อนจัดเกิน 35°C หรือลมแรงมาก ดอกจะไม่ติด

ถ้าเย็นจัดตอนกลางคืน (<18°C) จะทำให้การผสมเกสรไม่สมบูรณ์

วิธีแก้:

พยายามบังแสงแดดจัดเกินไปช่วงบ่าย ด้วยตาข่ายพรางแสง (พรางแสง 30%)

รดน้ำช่วงเช้าให้ต้นไม่ร้อนจนเกินไป

4. ไม่มีแมลงช่วยผสมเกสร หรือดอกไม่สมบูรณ์

พริกส่วนใหญ่ผสมเกสรตัวเองได้ แต่บางช่วงถ้าอากาศชื้นหรือไม่มีแมลงช่วย อาจทำให้ไม่ติดผล

วิธีแก้:

เขย่าต้นเบา ๆ หรือใช้พู่กันแตะเกสรตัวผู้ไปยังดอกตัวเมีย (ผสมเกสรมือ)

พ่นสาหร่ายทะเลเพื่อกระตุ้นความสมบูรณ์ของดอก

5. มีเพลี้ย ไรแดง หรือโรคเชื้อรารบกวน

เพลี้ยและไรดูดน้ำเลี้ยงจากดอก ทำให้ร่วงง่าย

โรคแคงเกอร์หรือราในดินอาจทำให้ใบเหลืองและร่วงร่วมด้วย

วิธีแก้:

ฉีดพ่น น้ำหมักสะเดา ตะไคร้หอม น้ำส้มควันไม้ สัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง

ดูใต้ใบและดอก ถ้ามีจุดดำ/จุดขาวแสดงว่ามีแมลง ต้องกำจัดก่อน

สรุปแนวทางแก้เบื้องต้น:

1. เสริมปุ๋ยสูตร 8-24-24 + พ่นแคลเซียม-โบรอน

2. รดน้ำสม่ำเสมอ เช้า-เย็น อย่าให้แฉะหรือแห้ง

3. ฉีดพ่นน้ำหมักสมุนไพรป้องกันแมลง

4. ผสมเกสรด้วยมือช่วงเช้า ถ้าไม่ติดผล

5. ถ้าอากาศร้อนจัด ให้พรางแสงบางส่วนช่วงบ่าย

ถ้าอยากให้ผมช่วยวิเคราะห์เพิ่ม บอกช่วงที่ปลูก, วิธีดูแล, หรือส่งภาพต้นและดอกมาก็ได้ครับ จะได้แนะได้ตรงจุดยิ่งขึ้น!

4o

คุณพูดว่า:

ใช้น้ำประปารถมีผล ทำให้พืช ไม่ปกติหรือเปล่าครับ

ChatGPT พูดว่า:

คำถามนี้ดีมากครับ และเป็นประเด็นที่คนปลูกผักหรือพืชมักสงสัยกันเยอะเลย — คำตอบคือ:

ใช้น้ำประปารดพืช “ได้” แต่ต้องดูปัจจัยเหล่านี้ประกอบครับ:

1. คลอรีนในน้ำประปา

น้ำประปามักมี คลอรีน ใส่เพื่อฆ่าเชื้อ

ถ้าใช้รดพืชเลยบ่อย ๆ โดยเฉพาะพืชอ่อนหรือผักกินใบ อาจกระทบต่อ “จุลินทรีย์ในดิน” หรือ “รากพืช”

ทำให้พืชเจริญเติบโตช้าลง หรืออ่อนแอลงได้

วิธีแก้:

พักน้ำประปาไว้ในถัง 12–24 ชม. เพื่อให้คลอรีนระเหยก่อนนำไปรด

หรือใช้ ถังน้ำเปิดฝาทิ้งไว้ข้ามคืน ก็ได้ครับ

2. ความกระด้างของน้ำ

น้ำประปาบางพื้นที่อาจมีความกระด้าง (แคลเซียม/แมกนีเซียมสูง) หรือมีความเค็มนิด ๆ

ไม่กระทบมากกับพืชสวนทั่วไป แต่ถ้ารดนาน ๆ โดยไม่ล้างด้วยฝนหรือน้ำสะอาด อาจมีสะสมในดิน ทำให้รากดูดน้ำได้น้อย

วิธีแก้:

รดน้ำให้ชุ่มแล้วปล่อยให้น้ำไหลผ่านเพื่อช่วยชะล้าง

ใส่ปุ๋ยคอกหรืออินทรีย์ปรับสมดุลดินเป็นระยะ

3. ค่า pH ของน้ำประปา

น้ำประปาส่วนใหญ่ pH = 7–8 ซึ่งพืชส่วนใหญ่ก็รับได้ แต่พืชที่ชอบกรดอ่อนอาจดูดธาตุอาหารไม่ดี

วิธีแก้:

ใช้น้ำหมักชีวภาพ (พีเอชกรดอ่อน) หรือฮิวมัส ปรับสภาพดินให้สมดุล

สรุปง่าย ๆ:

ใช้น้ำประปาได้ครับ ถ้า:

พักน้ำก่อนรด

ปรับดินเป็นอินทรีย์มากขึ้น

สลับรดกับน้ำฝนหรือน้ำบ่อถ้ามี

ถ้ารดแล้วพืชดูเฉา ใบร่วง หรือโตช้า ลองสังเกตพวกนี้ได้เลย

ถ้าคุณอยู่ในเขตเมืองหรือใช้สายยางจากก็อกเลย ผมแนะนำให้ พักน้ำในถังหรือบ่อเก็บไว้ก่อนสักคืน จะช่วยให้พืชแข็งแรงกว่า 

มีพืชตัวไหนที่ดูอาการผิดปกติจากการใช้น้ำไหมครับ? เล่าเพิ่มได้นะ ผมช่วยวิเคราะห์ได้ละเอียดขึ้นอีก.

4o

คุณพูดว่า:

มัลเบอร์รี่ช่วงกำลังแตกตาออกดอก จะต้องบำรุงยังไงเพื่อให้ติดและลูกใหญ่ สมบูรณ์

ChatGPT พูดว่า:

มัลเบอร์รี่ (หม่อน) ในช่วงกำลัง แตกตาและเริ่มออกดอก เป็นช่วงที่สำคัญมาก ถ้าบำรุงถูกจังหวะ จะช่วยให้ 
ดอกติดดี ลูกดก ลูกใหญ่ สีเข้ม และรสหวาน เลยครับ
มาดูแนวทางการดูแลช่วงนี้แบบครบสูตร:

1. ปุ๋ยรองพื้นเพื่อเร่งดอก – ติดลูก

ใส่ ปุ๋ยสูตร 8-24-24 หรือ 12-24-12 รอบโคนต้นเพื่อช่วยเร่งการออกดอกและสร้างผล

ถ้าใช้ปุ๋ยอินทรีย์: แนะนำให้ใช้ ขี้ไก่หมัก + ขี้วัว + กระดูกป่น + แกลบดิบ ร่วมกัน

2. เสริมธาตุอาหารทางใบให้ “ดอกติดดี-ผลไม่ร่วง”

ฉีดพ่น แคลเซียม-โบรอน (Ca+B) ทุก 5–7 วัน
ช่วยให้ดอกไม่ร่วง ติดผลแน่น รากดูดอาหารได้ดี

เพิ่มสารสกัดจาก สาหร่ายทะเล เพื่อกระตุ้นฮอร์โมนพืชให้ลูกใหญ่ สม่ำเสมอ

3. งดการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนสูงช่วงนี้ (เช่นยูเรีย, 46-0-0)

เพราะจะเร่งยอดแทนดอก ทำให้ “แตกใบแต่ไม่ออกลูก” หรือดอกร่วงง่าย

ถ้าต้นยังแตกยอดเยอะให้ เด็ดยอดปลาย เพื่อบังคับให้แตกดอก

4. ควบคุมน้ำอย่างเหมาะสม

ช่วงเริ่มออกดอก ให้น้ำน้อยลงเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นการติดดอก

พอติดผลแล้ว เพิ่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ลูกใหญ่ ฉ่ำ ไม่หล่นก่อนกำหนด

5. บำรุงดินให้อุดมสมบูรณ์

ใช้ปุ๋ยหมัก หรือเติม “น้ำหมักผลไม้สุก + จุลินทรีย์ EM” ทุก 7–10 วัน

ใส่ แกลบดิบหรือแกลบดำคลุมโคน เพื่อรักษาความชื้นและบำรุงดิน

6. ป้องกันเพลี้ย-หนอน-เชื้อรา

ดอกอ่อนช่วงนี้ถ้าโดนเพลี้ย หรือราระบาด จะทำให้ดอกร่วงง่าย

พ่นน้ำหมักสะเดา น้ำส้มควันไม้ หรือสมุนไพรไล่แมลงทุก 5–7 วัน

เสริมเคล็ดลับปลูกมัลเบอร์รี่ให้ออกลูกดก

ตัดแต่งกิ่งให้มีช่องแสงเข้าได้ทั่วพุ่ม

ตัดปลายยอดอ่อนบางส่วน กระตุ้นให้แตกตาดอกมากขึ้น

เก็บผลสุกให้หมด อย่าให้คาต้น เพื่อให้ต้นไม่ชะงักการให้ผลรอบถัดไป

หากคุณบำรุงตามนี้ในช่วงแตกตา–ดอกเริ่มออก รับรองว่า ติดลูกเยอะ ลูกโต สีเข้มหวานจัดแน่นอน
ถ้าสะดวกถ่ายภาพทรงพุ่มหรือสภาพต้นตอนนี้ ผมช่วยวางแผนรายสัปดาห์ให้ได้เลยครับ!

4o

คุณพูดว่า:

ภูมิพลทางใบ ที่มีแคลเซียมโบรอน ซื้อใน Lazada หรือ shopee มียี่ห้ออะไรบ้าง

ChatGPT พูดว่า:

​แน่นอนครับ! หากคุณกำลังมองหาแคลเซียม-โบรอนสำหรับพ่นทางใบเพื่อบำรุงพืช เช่น มัลเบอร์รี่ในช่วงออกดอกและติดผล 
ทั้ง Lazada และ Shopee มีผลิตภัณฑ์หลากหลายให้เลือก โดยมีราคาตั้งแต่ประมาณ 27 บาทถึง 319 บาทต่อขวด 
ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและขนาด ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่:​

วีแคล แคลเซียม-โบรอน (1 ลิตร)
ธาตุอาหารรองช่วยการผสมเกสร ป้องกันผลแตก ดอกหลุดร่วง ขั้วเหนียว ฮอร์โมนพืช ราคาประมาณ 149 บาท

แคลเซียมโบรอน สูตร 1 (ชุดทำหัวปุ๋ย 20 ลิตร)
ช่วยเร่งแตกใบอ่อน เร่งต้นโตไว ขยายขนาดใบ ฟื้นสภาพต้น และฉีดผักกินใบ ราคาประมาณ 220 บาท

แคลเซียมโบรอนเกรด AA (1 ลิตร)
อาหารพืชทางใบ ช่วยให้ผลดก ขั้วเหนียวไม่หลุดร่วง ต้นสมบูรณ์ เห็นผลเร็ว ราคาประมาณ 145 บาท













นูบา สเปรย์ แคลเซียมโบรอน (1 ลิตร)
อาหารเสริมทางใบ เพิ่มการติดผล ช่วยผสมเกสร ลดการหลุดร่วง เพิ่มคุณภาพผลผลิต ราคาประมาณ 175 บาท

แคลเซียม-โบรอน คีเลต (แคลลอน) (1 ลิตร)
ช่วยผสมเกสร ติดผลดก ขั้วเหนียว ปุ๋ยน้ำสำหรับพืชหลายชนิด ราคาประมาณ 249 บาท

คุณสามารถค้นหาผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Lazada และ Shopee โดยใช้คำค้นเช่น "แคลเซียมโบรอน ปุ๋ยทางใบ" 
หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับพืชของคุณ หรือวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง  
ที่มา

คุณพูดว่า:

น้ำส้มควันไม้ หาซื้อใน Lazada มียี่ห้ออะไรบ้างที่ดี

ChatGPT พูดว่า:

​แน่นอนครับ! หากคุณกำลังมองหาน้ำส้มควันไม้คุณภาพดีบน Lazada ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในเกษตรกรรมหรือการดูแลพืชพรรณ 
ต่อไปนี้คือยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและมีคุณภาพ:​

น้ำส้มควันไม้ ออร์แกนิก สูตรเข้มข้น ตราเหรียญทอง
ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ผ่านการตกตะกอนนานกว่า 3 เดือน เหมาะสำหรับการไล่แมลงศัตรูพืชและดับกลิ่น



น้ำส้มควันไม้เข้มข้น 100% ตราสะเดาไทย
ผลิตจากไม้สะเดาล้วน กลิ่นแรง ติดทนนาน เหมาะสำหรับพืช สัตว์ และการใช้งานในครัวเรือน





น้ำส้มควันไม้ สูตร Premium ตรา TPI
ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ช่วยกำจัดและป้องกันแมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ

น้ำส้มควันไม้ ตราโครงการหลวง
ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับการใช้งานในเกษตรกรรม



น้ำส้มควันไม้ ตรา อ.เปี๊ยก
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและมีรีวิวดีจากผู้ใช้งาน เหมาะสำหรับการดูแลพืชและสัตว์

ก่อนการสั่งซื้อ ควรตรวจสอบรายละเอียดผลิตภัณฑ์ รีวิวจากผู้ซื้อ และความน่าเชื่อถือของร้านค้าเพิ่มเติม 
เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับสินค้าที่ตรงกับความต้องการและมีคุณภาพที่ดีครับ



ที่มา

คุณพูดว่า:

ป้องกันเพลียหนอนเชื้อราใช้น้ำหมักอะไรพ่นดี

ChatGPT พูดว่า:

ถ้าคุณต้องการ ป้องกันเพลี้ย หนอน และเชื้อราแบบปลอดสารพิษ น้ำหมักสมุนไพรเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ใช้ง่าย ราคาถูก 
ทำเองได้ :หรือหาซื้อก็สะดวก ผมสรุปสูตรเด็ดให้ครับ

1. น้ำหมักสะเดา – ไล่เพลี้ย หนอน แมลง

วัตถุดิบ: เมล็ดสะเดาแก่หรือใบสะเดา 1 กก. + น้ำเปล่า 5 ลิตร

วิธีทำ:

บดหรือสับสะเดาให้ละเอียด แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 24–48 ชม.

กรองน้ำแล้วใช้ฉีดพ่นได้เลย

อัตราส่วนใช้: 1 ส่วนต่อน้ำ 20–30 ส่วน

ประโยชน์: ไล่เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน หนอน และแมลงปากดูดหลายชนิด

2. น้ำหมักข่า ตะไคร้หอม – ไล่แมลงและเชื้อรา

วัตถุดิบ: ข่าแก่ + ตะไคร้หอม + ใบสะระแหน่ (รวมกัน 1 กก.) + น้ำเปล่า 5 ลิตร + กากน้ำตาล 100 ซีซี

หมัก 7–15 วัน แล้วกรองเอาน้ำไปใช้

ใช้: 20–30 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นทุก 5–7 วัน

ประโยชน์: ไล่แมลง หนอน และช่วยยับยั้งเชื้อรา

3. น้ำหมักพริก+กระเทียม+ข่า – ฆ่าเพลี้ย หนอน ป้องกันรา

วัตถุดิบ: พริกสด 500 กรัม + กระเทียม 500 กรัม + ข่าแก่ 500 กรัม + น้ำเปล่า 5 ลิตร

ปั่นทุกอย่างรวมกัน แล้วแช่ทิ้งไว้ 1–2 วัน กรองก่อนใช้

ใช้: 50 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร (พ่นใบช่วงเย็น)

แรงหน่อย เหมาะกับพืชโตแล้ว เพราะฆ่าแมลงศัตรูพืชได้จริง

4. น้ำหมักย่านาง/ฝรั่ง/สะเดา – กันเชื้อรา

ใช้ใบฝรั่ง หรือใบย่านาง + น้ำหมัก EM + น้ำตาลแดง หมักไว้ 7 วันขึ้นไป

ช่วยป้องกันโรคราแป้ง ราน้ำค้าง ราดำ

5. น้ำหมักใบยูคาลิปตัส (สูตรเด็ดบางพื้นที่นิยม)

ใช้ใบยูคาลิปตัสสดสับ 1 กก. แช่น้ำ 10 ลิตร 24 ชั่วโมง

กรองฉีดพ่นไล่เพลี้ยและแมลงวันทองได้ดีมาก

คำแนะนำเพิ่มเติม

ฉีดพ่นช่วงเย็นดีที่สุด (ป้องกันใบไหม้)

สลับสูตรหมุนเวียน 1–2 สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

พ่นใต้ใบด้วย เพราะเพลี้ยและหนอนมักหลบอยู่ใต้ใบ

ถ้าคุณบอกได้ว่าต้นอะไรเจอเพลี้ยหรือเชื้อราบ่อย ผมจะจัดสูตรเฉพาะให้ได้เลยครับ
หรือถ้าอยากซื้อสำเร็จรูปก็แนะนำได้นะครับ ว่าควรเลือกแบบไหนบน Shopee/Lazada ที่ปลอดภัยและคุ้มค่า

คุณพูดว่า:

น้ำส้มควันไม้ เหมาะสำหรับ ฉีดไล่ พวกเชื้อโรคพวกไหน

ChatGPT พูดว่า:

น้ำส้มควันไม้เหมาะสำหรับการฉีดพ่น เพื่อไล่แมลงศัตรูพืชและควบคุมเชื้อโรคบางชนิด ได้ดีมาก โดยเฉพาะเมื่อนำมาใช้ในสวน
เกษตรอินทรีย์หรือเกษตรปลอดสารพิษ รายละเอียดดังนี้ครับ:


เชื้อโรคและแมลงที่น้ำส้มควันไม้ช่วยจัดการได้

1. เชื้อราบางชนิด

ราแป้ง

ราดำ

ราสนิม

ราน้ำค้าง (ช่วยลดความรุนแรงได้ แต่อาจไม่ฆ่าเชื้อโดยตรง)
การออกฤทธิ์: ช่วยลดสปอร์ของเชื้อรา และเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้ไม่เหมาะกับการเจริญของเชื้อ

2. แบคทีเรียบางชนิด

เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคแผลเน่า ใบจุด

ไม่แรงพอฆ่าเชื้อได้เหมือนสารเคมี แต่ช่วยลดการแพร่กระจายและควบคุมได้ในระยะต้น

3. แมลงศัตรูพืชที่น้ำส้มควันไม้ไล่ได้ดี

เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ

หนอนเจาะผล หนอนชอนใบ

แมลงวันทอง

แมลงหวี่ขาว

แมลงปีกแข็งเล็กๆ

มด (ซึ่งมักพาเพลี้ยขึ้นต้นไม้)

เคล็ดลับการใช้

ผสมน้ำก่อนใช้ อัตรา 1:100–1:200 (น้ำส้มควันไม้ 50–100 ซีซี ต่อน้ำ 10 ลิตร)

ฉีดพ่นตอนเย็นหรือช่วงแดดอ่อน (เช้า/เย็น)

ห้ามฉีดเข้มข้นเกินไป เพราะอาจทำให้ใบไหม้ได้

พ่นทุก 5–7 วัน เพื่อควบคุมแมลงและโรคอย่างต่อเนื่อง

ข้อดีเพิ่มเติม

ช่วยลดกลิ่นเหม็นในปุ๋ยหมักหรือโรงเรือน

ลดแมลงวันในเล้าไก่ คอกหมู คอกวัว

ช่วยลดเชื้อโรคในดินได้ระดับหนึ่ง เมื่อราดลงดินเป็นระยะ

หากคุณเลี้ยงพืชประเภทใดเป็นหลัก (เช่น พริก มะเขือ มัลเบอร์รี่) ผมสามารถแนะนำสูตรเฉพาะการใช้ร่วมกับน้ำหมักหรือปุ๋ยอื่นๆ 
เพื่อเสริมฤทธิ์กันได้ครับ
 
คุณพูดว่า:

ใช่ครับพริก มะเขือ และมัลเบอร์รี่

ChatGPT พูดว่า:

เยี่ยมเลยครับ! ทั้ง พริก มะเขือ และมัลเบอร์รี่ เป็นพืชที่เจอทั้ง เพลี้ย หนอน และเชื้อรา บ่อย น้ำส้มควันไม้ช่วยได้ดีมาก 
โดยเฉพาะถ้าใช้ร่วมกับน้ำหมักสมุนไพร หรือแคลเซียม-โบรอนบางจังหวะ มาดูวิธีใช้แบบ “แม่นๆ” สำหรับแต่ละต้นกันเลย:

1. พริก

ปัญหาที่พบบ่อย:

เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน หนอนเจาะผล

ราแป้ง ราดำ ใบจุด

การใช้:

น้ำส้มควันไม้ 50–80 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นใต้ใบทุก 5–7 วัน

เสริมพลัง: ผสมน้ำหมักสะเดา 100 ซีซี ช่วยเพิ่มการไล่แมลงได้มากขึ้น

ช่วงออกดอก-ติดผล: หยุดพ่นน้ำส้มควันไม้ช่วงดอกบาน 3–5 วัน เพื่อไม่ให้ร่วง

ปลายใบหงิก-เหลือง: อาจเสริมด้วยแคลเซียม-โบรอน (1 ซีซี/ลิตร)

2. มะเขือ (ยาว / พวง ฯลฯ)

ปัญหาที่พบบ่อย:

เพลี้ยไฟ หนอนชอนใบ

เชื้อราใบจุด ราน้ำค้าง

การใช้:

น้ำส้มควันไม้ 70 ซีซี + น้ำหมักตะไคร้/ข่า/พริก 30 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร

พ่นเช้าอ่อนหรือเย็นทุก 5–7 วัน

หากเชื้อรามาแรง ใช้สลับกับน้ำหมักใบฝรั่ง + หัวไพล ช่วยเสริมฤทธิ์ฆ่าเชื้อ

3. มัลเบอร์รี่

จุดเน้น: ต้องการเน้น "ออกลูกดก-ไล่แมลง-กันรา"

มัลเบอร์รี่ไวต่อสารแรง จึงควร เจือจางน้ำส้มควันไม้มากกว่าพืชอื่น

สูตรแนะนำ:

น้ำส้มควันไม้ 30–50 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7–10 วัน

ช่วงติดดอก/ติดลูก: หยุดพ่นน้ำส้มควันไม้ 3–5 วัน เพราะดอกอ่อนอาจร่วง

หากมีเพลี้ย ใช้น้ำหมักสะเดาเบาๆ ร่วมได้

ทริคพิเศษ

ทุกพืช ควรฉีด ใต้ใบ เพราะแมลงมักเกาะใต้ใบ

อย่าฉีดตอนแดดจัด ใบจะไหม้

สลับการพ่น เช่น

สัปดาห์นี้พ่นน้ำส้มควันไม้

สัปดาห์หน้าพ่นน้ำหมักพริก+กระเทียม

สัปดาห์ถัดไปพัก แล้วเริ่มวนใหม่       




 



ARGICULTURE ARGICULTURE Reviewed by Uthid on April 15, 2025 Rating: 5

No comments:

Powered by Blogger.